Tag Archives: โคมไฟห้อย

โคมไฟ

 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Design Love Forest

สำหรับสาว ๆ ที่ชอบทำงานฝีมือ เพื่อให้ได้ของแต่งบ้านเก๋ไม่ซ้ำใคร แถมยังได้ใช้เวลาว่างทำอะไรเพลิน ๆ ไปในตัวล่ะก็ รับรองเลยว่า โคมไฟ DIY สีพาสเทลจาก Design Love Forest ที่เรานำวิธีทำมาฝากในวันนี้ จะต้องถูกใจคุณอย่างแน่นอน เพราะสวยหวานไม่แพ้แบบที่ซื้อจากร้านเลยจริง ๆ โดยใช้วิธีการไล่เฉดสี โคมไฟ ในโทนพาสเทลอ่อน ๆ จนออกมาสวยหวาน เหมาะจะนำมาแต่งบ้านสุด ๆ ดังนั้นใครอยากได้ โคมไฟ สวยไม่เหมือนใครในราคาประหยัด อย่ารอช้า เตรียมอุปกรณ์ดังนี้ แล้วมาลองทำกันเลย

โคมไฟ

 

อุปกรณ์

 โคมไฟทรงกลมขนาด 8 นิ้ว (หรือเท่าที่หาได้)

 สเปรย์พ่นกระจกสีใส, และสีชมพูเฉดต่าง ๆ

 แอลกอฮอลล์

 สำลี

 กระดาษชำระ

 ชามใบเล็ก

 เทปกาว

 กรรไกร

 ไม้บรรทัด

วิธีทำ

 1. เตรียมสเปรย์ต่าง ๆ ให้พร้อม โดยอ่านตามคำแนะนำข้างขวด

 2. ใช้สำลีชุบแอลกอฮอลล์เช็ดรอบโคมระย้าเพื่อทำความสะอาด

 3. วาง โคมไฟ แล้วใช้ไม่บรรทัดวัดจากพื้นขึ้นมาให้ได้ 4 นิ้ว (หรือวัดให้อยู่ตรงกลาง) แล้วจึงทำเครื่องหมายเอาไว้ด้วยการใช้เทปกาวแปะตลอดแนว

โคมไฟ

 

 4. นำชามใบเล็กมาวาง โดยปูกระดาษชำระรองด้านบน จากนั้นเอาโคมไฟมาใส่ในชาม โดยให้ด้านที่จะใช้ใส่หลอดไฟอยู่ข้างบน

 5. พ่นสีชมพูเข้มให้ทั่ว ตั้งแต่เครื่องหมายที่ทำเอาไว้ จนสุดรอบโคมไฟ ทิ้งไว้ให้แห้งราว 45 นาที

 6. พ่นสีเดิมทับอีกครั้ง คราวนี้ให้พ่นเหนือเครื่องหมายที่ทำไว้ 1 นิ้ว พอแห้งก็ทำอีกครั้ง โดยสูงขึ้นจากจุดที่แล้วอีก 1 นิ้วเรื่อย ๆ จนไล่สีโคมไฟได้ทั่ว หากสีที่ได้ยังไม่พอใจ อาจทำซ้ำใหม่อีกครั้ง

 7. พ่นสีชมพูอ่อน ตั้งแต่เครื่องหมายที่ทำเอาไว้จนสุด ทิ้งไว้ให้แห้งราว 45 นาที

 8. พ่นสีชมพูอ่อนทับอีกครั้ง โดยพ่นเหนือเครื่องหมาย 1 นิ้ว แบบเดียวกับตอนแรก พอแห้งก็ทำอีกครั้ง โดยสูงขึ้นจากจุดที่แล้วอีก 1 นิ้วเรื่อย ๆ จนไล่สีโคมไฟได้ทั่ว หากสีที่ได้ยังไม่พอใจ อาจทำซ้ำใหม่อีกครั้ง

โคมไฟ

 

9. แกะเทปกาวออก หากมีรอยกาวเหลือ ใช้นิ้วขูดออก แล้วใช้สเปรย์พ่นกระจกสีใสปกปิดร่องรอย

โคมไฟ

 

 

 

Credit by : http://www.teerawatcurtain.com

โคมไฟ

โคมไฟ ทำหน้าที่บังคับทิศทางแสงของหลอดให้ไปในทิศทางที่ต้องการ โคมไฟ มีใช้กันมากมายหลายชนิดขึ้นอยู่กับการใช้งาน สำหรับ โคมไฟ กับการประหยัดพลังงาน ในที่นี้จะกล่าวถึง โคมไฟ ที่ใช้ภายในอาคาร เพราะมีการนำมาใช้งานกันมาก จำเป็นต้องเลือก โคมไฟ ที่สามารถประหยัดพลังงานและมีคุณภาพที่ดี

1 ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกโคมไฟฟ้า 

1.1 ความปลอดภัยของโคม         โคมไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานต้องได้รับมาตรฐานความปลอดภัยตามเกณฑ์ด้วย เช่น ต้องไม่มีคมจนอาจเกิดอันตราย  ต้องมีระบบการต่อลงดินในกรณีที่ใช้กับฝ้าสูงเพื่อไม่เป็นอันตรายกับคนที่มาเปลี่ยนหลอด

1.2 ประสิทธิภาพของโคมไฟฟ้า (Luminaire efficiency) โคมไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานหมายถึงโคมที่มีประสิทธิภาพของโคมสูงที่สุด คือ ให้ปริมาณแสงออกมาจากตัวโคมเมื่อเทียบกับปริมาณแสงที่ออกจากหลอดให้มีค่าสูงที่สุด

1.3 ค่าสัมประสิทธิ์การใช้งานของโคมไฟฟ้า (Coefficients of Utilization) ค่าที่ได้จากการวัดประสิทธิภาพของโคม โดยที่รวมผลของความสูงและสัมประสิทธิของการสะท้อนของผนังและเพดานโดยผู้ผลิต

1.4 แสงบาดตาของโคม (Glare)          เป็นค่าที่แสดงคุณภาพแสงของโคม ต้องเลือกโคมที่มีแสงบาดตาอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้

1.5 กราฟการกระจายแสงของโคม (Distribution Curve)         โคมมีหลายชนิดด้วยกันแต่ละโคมก็มีกราฟกระจายแสงของโคมต่างกัน การนำโคมไปใช้ต้องเลือกกราฟกระจายแสงของโคมที่เหมาะสมกับงาน

1.6 การระบายความร้อนของโคม         โคมไฟฟ้าทีประหยัดพลังงานควรจะมีการระบายความร้อนได้ดี ถ้ามีอุณหภูมิสะสมในโคมมากเกินไปอาจทำให้ปริมาณแสงที่ออกจากหลอดลดลง เช่น โคมไฟส่องลงหลอดคอมแพคก์ถ้าไม่มีการระบายความร้อนที่ดีปริมาณลดลงถึง 40% เป็นต้น

1.7 อายุการใช้งาน         โคมไฟฟ้าทีประหยัดพลังงานต้องพิจารณาอายุการใช้งานด้วย เช่น โคมต้องทำด้วยวัสดุที่สามารถใช้งานได้นานตามที่ต้องการโดยไม่ผุกร่อน และไม่มีการเปลี่ยนรูปเมื่อมีการบำรุงรักษาเนื่องจากการเปลี่ยนหลอดหรือทำความสะอาด

1.8  สถานที่ติดตั้งการเลือกใช้โคม แต่ละชนิดขึ้นอยู่กับว่าต้องการนำไปใช้งานอะไรบ้างต้องการคุณภาพแสงมากน้อยเพียงใด หรือเน้นในเรื่องของปริมาณแสงแต่เพียงอย่างเดียว ต้องมีการป้องกันทางกล ป้องกันน้ำ ฝุ่นผงมากน้อยเพียงใด

 

 

Credit : By http://www.flower-light.com/home.php?page=article

โคมไฟเพดาน เป็นโคมไฟให้แสงสว่างหลักภายในห้อง มักให้แสงในวงกว้างและสม่ำเสมอ ที่เราเรียกกันว่าให้แสงสว่างทั่วไปค่ะ ดังนั้นมันจึงเป็นโคมไฟชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

 

โคมไฟเพดาน อาจแบ่งได้หลายประเภท มาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีประเภทไหนบ้าง และแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันอย่างไร

 

 

โคมไฟเพดาน ดาวน์ไลท์

1. โคมไฟฝังฝ้า หรือโคมไฟดาวน์ไลท์ (downlight)

โคมไฟฝังฝ้าเป็น โคมไฟเพดาน ซึ่งนิยมใช้มากที่สุด เพราะใช้ง่าย สามารถใช้ได้กับทุกห้อง ให้แสงสว่างได้อย่างทั่วถึง จึงมักใช้เป็นแสงสว่างหลักในการจัดแสง มีข้อเสียคือห้องจะสว่างแต่ขาดมิติ และดูเรียบเกินไป สถาปนิกจึงมักใช้ไฟชนิดนี้ร่วมกับไฟประเภทอื่นๆ หรือสร้างลูกเล่นให้กับเพดานห้องเพื่อความสวยงามค่ะ

โคมไฟเพดาน ติดลอย

2. โคมไฟติดลอย

โคมไฟเพดาน ชนิดนี้มีน้ำหนักเบา สามารถยึดติดกับฝ้าเพดานได้โดยไม่ต้องเจาะฝ้าแบบเดียวกับโคมไฟดาวน์ไลท์ อาจติดเพื่อให้แสงสว่างหลัก หรือเน้นเฉพาะจุดเพื่อความสวยงามก็ได้ แล้วแต่ชนิดและขนาดของโคมไฟค่ะ

 โคมไฟเพดาน 32 w

3. โคมไฟเพดาน

โคมไฟเพดาน โคมซาลาเปา หรือ โคม 32w. เป็นโคมไฟอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากค่ะ มีรูปแบบและลวดลายหลากหลาย นิยมติดตั้งในห้องนอน เพราะให้แสงนุ่มนวล ไม่แยงตา

โคมไฟเพดาน ห้อยเดี่ยว

4. โคมไฟแขวน หรือ โคมไฟห้อย

โคมไฟเพดาน ชนิดแขวนหรือห้อย อาจแบ่งได้อีก 2 กลุ่มค่ะ คือ โคมไฟแขวนฝ้า และโคมไฟแขวนคาน

ลักษณะของโคมไฟแขวนฝ้า คือมีน้ำหนักเบา อาจจะเป็นโคมไฟห้อยเดี่ยว หรือโคมไฟชุดเล็กๆ ที่มีน้ำหนักไม่มาก จึงสามารถยึดกับฝ้าเพดานได้เลยค่ะ

ส่วนโคมไฟที่มีน้ำหนักมากอย่างโคมไฟระย้า หรือโคมไฟแชนเดอเลียร์ จำเป็นต้องแขวนกับคาน หรือตัวยึดที่แข็งแรงค่ะ

โคมไฟเพดาน สปอตไลท์

5. โคมไฟสปอตไลท์

โคมไฟเพดาน ชนิดนี้มักใช้กับบ้านสไตล์โมเดิร์น เพราะให้ภาพลักษณ์ของความทันสมัย และยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานได้หลายรูปแบบ สามารถใช้ให้แสงสว่างทั่วไป หรือเน้นแสงเฉพาะพื้นที่ก็ได้ค่ะ

โคมไฟประเภทนี้อาจแบ่งได้อีก 2 ชนิดค่ะ คือ

1.โคมไฟติดราง (track light) สามารถติดโคมไฟได้หลายดวงบนราง เรียงจัดตำแหน่งของโคมไฟได้ด้วยตัวเอง

2.โคมไฟติดแป้น จะเป็นโคมสปอตไลท์ชนิดดวงเดียว หรือหลายดวงยึดตำแหน่งตายตัวไว้บนแป้นเดียวกัน สามารถหมุนองศาหน้าไฟได้ ใช้ยึดกับฝ้าเพดานได้โดยไม่ต้องใช้รางค่ะ

รู้แบบนี้แล้วพอจะช่วยให้เลือก โคมไฟเพดาน ที่เหมาะกับห้องของคุณได้บ้างไหมคะ :)